
ทำไมเราถึงได้เห็นบางทีมชาติกล้าใส่ชื่อนักเตะที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ หรืออาจจะฟิตสมบูรณ์ไม่ทัน อยู่ในรายชื่อทีมชุดสุดท้ายของเวิลด์คัพ 2022
เบลเยียม ใส่ชื่อ โรเมลู ลูกากู ที่บาดเจ็บซ้ำกับ อินเตอร์ มิลาน และยังคงต้องรักษาตัวต่อในแคมป์ทีมชาติเซเนกัล กล้าหนีบ ซาดิโอ มาเน่ มาด้วย ทั้งที่นักเตะบาดเจ็บมากับต้นสังกัด บาเยิร์น มิวนิค และถูกคาดการณ์ว่าคงหายไม่ทัน
หรือจะเป็น อังกฤษ ที่มี ไคล์ วอล์คเกอร์ อยู่ในทีม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พูดหลายครั้งแล้วว่านักเตะคงฟิตไม่ทันฟุตบอลโลก
และไม่เพียงแค่ที่เอ่ยชื่อมา แต่ยังมีอีกหลายคนที่มาในสภาพที่ไม่เต็มร้อย หรือระหว่างนี้อาจบาดเจ็บเพิ่ม เพราะอย่าลืมว่าฟุตบอลโลกหนนี้นักเตะไม่ได้มีเวลาพักเหมือนทุกครั้ง หลายคนเพิ่งลงสนามกันมาเมื่อสุดสัปดาห์ แถมยังต้องเล่นเกมอุ่นเครื่องทีมชาติในอีกไม่กี่วันต่อมาอีก
กุนซือทุกชาติต่างเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว เพราะตามกฏของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ข้อที่ 24 ย่อหน้าที่ 3 ระบุเอาไว้ว่า ทุกทีมชาติสามารถเปลี่ยนแปลงนักเตะได้ หากนักเตะคนนั้นๆ บาดเจ็บหรือป่วยรุนแรงจนไม่สามารถเล่นในทัวร์นาเมนต์ แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงรายชื่อก่อนเกมแรกของทีมชาตินั้นๆ 24 ชั่วโมง
ฝรั่งเศส คือชาติที่ใช้สิทธิ์นั้นไปแล้ว หลังจาก เปรสเนล คิมเพมเบ้ กับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู บาดเจ็บ ทำให้ต้องใส่ชื่อ อักเซล ดิซาซี่ กับ ร็องดาล โกโล มูอานี่ มาเสียบแทน
ตามกฏของ แทงบอล ที่ระบุเอาไว้ ทุกทีมชาติไม่จำเป็นต้องเลือกนักเตะทดแทนจากชุดเบื้องต้น 55 คนที่ส่งมาในทีแรก แม้การเลือกนักเตะ 26 คนสุดท้ายเป็นการเลือกจากทีมชุดนั้นก็ตาม จึงเป็นการเปิดทางให้นักเตะที่หมดลุ้นไปแล้ว